เมื่อประมาณสองสามวันที่ผ่านมานี้ (นับจากที่ลุงกำลังนั่งเขียนบทความนี้ขึ้นมานะจ๊ะ) ปู่จ๋านของลุง เอ้ย!! ของเราก็ได้ปล่อยผลงานเพลงชิ้นใหม่ออกมา 1 เพลง ชื่อเพลง "นางสาวสมสมัย" นานๆปู่แกจะปล่อยออกมาสักเพลงนึง
อาจเป็นเพราะช่วงนี้เริ่มมีคนรู้จักและชื่นชอบผลงานของปู่จ๋านเพิ่มมากขึ้น ปู่แกเลยต้องเดินสายแสดงตามสถานที่ต่างๆมากมาย อีกทั้งอาจจะวุ่นวายอยู่กับการติดจานดาวเทียมจึงทำให้แกไม่ค่อยมีเวลาทำเพลงใหม่ๆออกมา
และหรับลุงเหลืองแล้วในฐานะที่เป็นแฟนเพลงตัวยงของปู่จ๋าน จึงไม่พลาดที่จะกดเข้าไปฟังในทันทีที่เพลงนี้ถูกอัพโหลดบน Youtube
ลุงแนบเนื้อเพลงมาให้แล้วนะจ๊ะ เผื่อใครที่ฟังปู่แกแร็ปไม่ทัน
"น.ส. สมสมัย"
ครั้งหนึ่งผมมีโอกาสไปเที่ยวชายหาดแถวหาดป่าตอง
เห็นหญิงรูปโฉมโสภารูปร่างหน้าตาน่าจับน่าจอง
จมูกเป็นสันเป็นคมดูโนก็ตมย้อมผมสีทอง
หน้าอกของเธอด้านซ้ายนั้นดันมีป้ายเป็นป้ายเบอร์ตอง
ผมถามชื่อของเธอเธอนามสมมุติว่าสมสมัย
หน้าตาของเธอก็ดีแล้วมาทำแบบนี้เพราะเหตุไฉน
อยากรู้สาเหตุมากๆก็แล้วไม่อยากฉงนฉงาย
แต่ปากเธอยิ้มแววตาเธอเศร้าน่ะจนไอ้เราล่ะก็สงกะสัย
ผมก็ถามเธอก็ตอบเพราะด้วยว่าเหตุจำเป็น
ฐานะทางบ้านลำเค็ญแถมพ่อยังป่วยเป็นมะเร็ง
เพราะเธอจบแค่ม.3เลยขาดโอกาศไปสอบไปเอ็นฯ
แม่ของเธอก็แก่ก็เฒ่าบางครั้งเจ็บเข่าบางครั้งเจ็บเอ็น
*เธอล้มกายลงบนเตียงเพราะเพียงคนข้างหลัง
ในใจเธอมีหวังพ่อเธอนั้นต้องหายป่วย
เธอพลีเรือนร่างอันงดงามให้ชายเสพกามอารมณ์หมาย
เธอส่งเสียน้องชายให้เล่าเรียน
เธอคือเสาหลักของครอบครัวในตัวมีศักดิ์ศรี
แม้ใครจะมองเธอไม่ดีแต่ฉันคนนี้ก็เข้าใจ
และผมก็หายฉงนเพราะว่าโลกนี้มันช่างสับสน
เพราะเหตุของเธอคือจนผลเลยพลีกายให้ชายหลายคน
มนุษย์ก็ต่างประนามว่าหญิงขายกามหน้ะไร้ศักดิ์ศรี
ใจเธอสุดทรมานขอแค่ทางบ้านหน้ะก็ได้สุขขี
เธอบอกว่าเธอน่ะเคยทำงานที่โรงงาน
ค่าแรงอันน้อยนิดน่ะพอค่าข้าวเป็นจานๆ
วุฒิม.3หน้ะหมดสิทธิ์ไม่ต้องคิดเป็นข้าราชการ
ไม่มีเงินให้หมุนไร้ซึ่งกองทุนในธนาคาร
เธอบอกว่ามีศักดิ์ศรีเพราะเธอคนนี้ก็หากิน
แต่เธอไม่เคยโกงชาติก็และไม่เคยโกงแผ่นดิน
ไม่เคยปล้นจี้ฆ่าชิงแล้วไม่แบมือขอใครกิน
โอเคผมได้คุยกับเธอและจูงมือเธอเข้าไปเช็คอิน (ซ้ำ * / *)
เนื้อหาในเพลงปู่จ๋านได้สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองอีกด้านหนึ่งของผู้หญิงหากิน ให้ผู้ฟังได้เห็นกันว่าบางครั้งคนเราก็ไม่ได้มีทางเลือกให้กับตัวเองมากมายสักเท่าไรนัก และบางครั้งพวกเธอก็ไม่ได้ทำเพียงเพราะต้องการเงินเพื่อนำมันไปซื้อความสุขทางวัตถุมาสนองความต้องการของเธอเพียงอย่างเดียว แต่เธอยังมีคนข้างหลังที่ยังต้องคอยดูแล
ถึงแม้คนกลุ่มนี้จะถูกมองว่าเป็นความน่ารังเกียจของสังคม เพราะพวกเธอยอมขายวิญญาณของตัวเองยอมพลีร่างกายอันมีค่าของเธอเพื่อแลกกับเงินเพียงน้อยนิด แต่ในมุมมองของลุง ลุงมองว่าคนเราเลือกไม่ได้ว่าอยากจะเกิดมาในสภาพแวดล้อมแบบไหน ชีวิตคนเรามีต้นทุนไม่เท่ากัน โอกาสที่ได้รับก็มีไม่เท่ากัน แต่เราทุกคนอาจมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ดิ้นรนเพื่อให้ตนเองและคนที่เป็นที่รักได้อยู่รอดต่อไปบนโลกสีเทาๆใบนี้ เพราะฉะนั้น เมื่ออาชีพที่เธอกำลังทำไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ลุงก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปมองว่าพวกเธอคือคนไม่ดี
และสุดท้ายไม่ว่าพวกเธอจะถูกมองว่าดีหรือไม่ในสายตาของคนในสังคม แต่สิ่งที่พวกเธอยังคงมีเหมือนกับพวกเราทุกคนก็คือ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์